ระวัง !! 10 โรคตับที่พบได้บ่อยที่สุด

ระวัง 10 โรคตับที่พบได้บ่อยที่สุด

ระวัง !! 10 โรคตับที่พบได้บ่อยที่สุด โรคตับเป็นโรคที่น่ากลัว เพราะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม ซึ่งโรคตับจะไม่มีการแสดงอาการออกมาให้เห็นจนกว่าจะเป็นหนักในระดับนึง แต่ก็จะมีการแสดงอาการออกมาในหลายรูปแบบ หากเราพบควรรีบเข้ารับการตรวจและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ขอแนะนำบทความ : 13 สัญญาณเตือนโรคตับมาแล้ว รีบเช็คด่วน สำหรับบทความนี้จะขอแนะนำเกี่ยวกับโรคตับ ที่สามารถพบได้บ่อย มาทั้งหมด 10 โรค อ่านได้จากด้านล่างเลยค่ะ 1. โรคไวรัสตับอักเสบ โรคไวรัสตับอักเสบ แบ่งเป็น ไวรัสตับอักเสบเอ บี ซี ดี และอี โดยในกลุ่มไวรัสตับอักเสบเอ ซี และดี ผู้ป่วยอาจทรุดลงจะเกิดภาวะตับแข็งหรือโรคมะเร็งตับได้ 2. โรคตับแข็ง โรคนี้เป็นภาวะที่เซลล์ตับถูกทำลายสะสมจนเกิดแผลและพังผืดเกาะบริเวณเซลล์เนื้อเยื่อตับ จนทำให้มีปัญหาตับแข็ง มักจะเกิดจากปัญหาโรคตับหรือการทำร้ายตับแบบอื่นๆจนตับถูกทำร้ายสะสมจนเกิดภาวะนี้ตามมา 3. โรคมะเร็งตับ โรคมะเร็งตับเกิดได้จากหลายสาเหตุ มักจะเกิดจากการที่ตับถูกทำร้ายสะสมเช่นเดียวกัน จนอวัยวะตับทรุดลงเรื่อยๆจนเกิดปัญหาเซลล์มะเร็งขึ้นมาในที่สุด 4. โรคไขมันพอกตับ โรคนี้เป็นภาวะที่ตับมีไขมันสะสมแทรกตัวอยู่ในเซลล์ตับในปริมาณมาก เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่นภาวะเบาหวาน อ้วน การทานของมัน การไดเอทเป็นประจำ ไม่ทานข้าวเช้า การดื่มเหล้าแอลกอฮอล์ เป็นต้น ทำให้เกิดการอักเสบของตับตามมาได้ … Read more

13 สัญญาณเตือนโรคตับมาแล้ว

13 สัญญาณเตือนโรคตับมาแล้ว

13 สัญญาณเตือนโรคตับมาแล้ว รีบเช็คด่วน ตับเป็นอวัยวะที่แทบจะไม่มีเส้นประสาท เมื่อเกิดความเสียหาย ผู้ป่วยจึงไม่ค่อยรู้สึกถึงปัญหาจนเมื่อเกิดปัญหาหนักแล้ว เพราะเส้นประสาทจะอยู่ในบริเวณเยื่อหุ้มตับภายนอก ผู้ป่วยจึงมักเริ่มรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเกิดปัญหาถึงบริเวณนี้ เช่นภาวะเนื้องอกใหญ่ขึ้น ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายของโรคตับ  ถึงแม้ว่าผู้ป่วยจะไม่ค่อยรู้สึกความเจ็บปวด แต่เราสามารถเห็นสัญญาณเตือนโรคตับได้จากหลายๆอาการดังนี้ 1. ตาเหลือง เมื่อตับทำงานไม่สมบูรณ์ อาจเกิดภาวะดีซ่าน ตาเหลือง ตัวเหลือง เพราะเลือดมีปริมาณบิลิรูบินมากเกินไป 2. บริเวณตาขาวมีเส้นเลือดขึ้น อีกสัญญาณที่แสดงว่าประสิทธิภาพในการทำงานของตับลดลง คือการเกิดเส้นเลือดขึ้นบริเวณตาขาว หรือมีอาการตาแดง ที่เกิดแม้ว่าเราไม่ได้ใช้สายตามากเป็นพิเศษ  3. น้ำตาคลอบ่อยๆ  ในทางการแพทย์แผนจีนมีคำกล่าวที่ว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของตับ เมื่อตับทำงานแย่ลง ตาไม่ได้รับการบำรุงหล่อเลี้ยงที่ดี จึงจำต้องหลั่งน้ำตาออกมาเยอะกว่าสภาวะปกติจนเห็นว่าผู้ป่วยมีน้ำตาคลออยู่บ่อยๆนั่นเอง 4. เล็บไม่แข็งแรง เปราะหักง่าย การมีเล็บที่เปราะหักง่ายเป็นสัญญาณว่าร่างกายมีธาตุเหล็กไม่เพียงพอหรือมีภาวะโลหิตจาง ซึ่งภาวะนี้อาจมีสาเหตุหนึ่งมาจากการทำงานของตับที่แย่ลงจนเกิดปัญหาขาดเลือด สารอาหารในเลือดไม่พอนั่นเอง 5. ใบหน้าคล้ำ ในผู้ที่ตับมีปัญหา มักมีปัญหาใบหน้าคล้ำ หลอดเลือดดำมีลักษณะโปนออกมาโดยเฉพาะบริเวณคิ้วและขมับ ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงว่าเลือดมีของเสียสารพิษสูง ที่เกิดจากตับกรองของเสียได้ไม่ดีพอ จนทำให้เลือดข้นหนืดไหลเวียนแย่ และผิวหนังดำคล้ำเป็นผลตามมานั่นเองค่ะ 6. หลอดเลือดดำใต้ลิ้นขอด ถ้าเราลองกระดกลิ้นขึ้นดูจะเห็นว่ามีหลอดเลือดดำขนาดใหญ่สองเส้น ซึ่งหากหลอดเลือดดำทั้งสองเส้นนี้มีภาวะปูดนูนมากผิดปกติ และมีสีคล้ำคดงอ เป็นสัญญาณว่าระบบเลือดมีปัญหา เลือดไหลเวียนไม่ดี ซึ่งอาจเกิดจากภาวะของโรคตับได้ค่ะ … Read more

ตับมีไว้ทำไม มารู้จักกับหน้าที่ของตับกัน

ตับมีไว้ทำไม มารู้จักหน้าที่ของตับกัน

ตับมีไว้ทำไม มารู้จักกับหน้าที่ของตับกัน ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญมากในร่างกาย และจัดว่าเป็นอวัยวะภายในที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย และมีความสามารถในการงอกเซลล์ใหม่เองอีกด้วยแม้ว่าจะถูกตัดแบ่งส่วนออกไป  ตับมีหน้าที่หลักๆถึง 8 ด้านดังนี้ค่ะ 1. แยกสลายคาร์โบไฮเดรต เมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไป น้ำตาลจะถูกดูดซึมผ่านทางลำไส้และม้ามผ่านกระแสเลือดและเข้าสู่ตับ และกลายเป็นน้ำตาลกลูโคส และในกรณีที่น้ำตาลสูงเกินก็จะถูกเปลี่ยนเป็นไกลโคเจนแล้วถูกนำไปสะสมไว้ที่ตับ จนเมื่อเกิดปัญหาระดับน้ำตาลต่ำ ตับก็จะนำไกลโคเจนที่สะสมไว้มาเปลี่ยนเป็นพลังงาน เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ตับจึงมีบทบาทสำคัญในการควบคุมสมดุลนี้ในร่างกาย 2. สังเคราะห์ไขมัน ตับมีหน้าที่เปลี่ยนน้ำตาลและโปรตีนให้กลายเป็นไขมัน และในกรณีที่ร่างกายขาดพลังงาน ตับก็จะเปลี่ยนไขมันเหล่านั้นออกมาเป็นพลังงานให้ร่างกายใช้ 3. แยกสลายโปรตีน ตับจะสลายโปรตีนให้เล็กลงกลายเป็นกรดอะมิโน และเมื่อร่างกายขาดพลังงานก็จะนำกรดอะมิโนเหล่านั้นเปลี่ยนเป็นกลูโคส ซึ่งในกระบวนการของการย่อยสลายโปรตีนนี้ก็จะทำให้เกิดสารแอมโมเนียขึ้น และตับก็ทำหน้าที่กำจัดสารนี้ออกโดยการเปลี่ยนแอมโมเนียให้เป็นสารยูเรีย แล้วขับออกไปทางปัสสาวะนั่นเอง 4. เก็บสะสมวิตามินเกลือแร่ วิตามินบางกลุ่มจะมีการเก็บสะสมไว้ในตับ ทำให้แม้ไม่ได้รับวิตามินเหล่านั้นบางช่วง ร่างกายก็มีสะสมเพียงพอในการทำงาน วิตามินเหล่านั้นเช่น วิตามินเอ บี ซี อี ดี เค 5. ผลิตน้ำดี ตับทำหน้าที่สร้างน้ำดี โดยการเปลี่ยนคอเลสเตอรอลให้เป็นกรดโคลิก แล้วรวมกับของเหลวจากท่อน้ำดีจนกลายเป็นน้ำดี แล้วน้ำดีนี้จะถูกนำไปเก็บสะสมไว้ที่ถุงน้ำดี น้ำดีทำหน้าที่ช่วยย่อยไขมัน เมื่อเราทานอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมัน น้ำดีก็จะถูกหลั่งออกมาช่วยย่อย  6. กำจัดสารพิษในร่างกาย ของเสียต่างๆจะถูกลำเลียงมากรองที่ตับ ไม้ว่าจะเป็นจากอาหารหรือยา … Read more

หยุดหายใจขณะหลับ คืออะไรกันแน่นะ?

หยุดหายใจขณะหลับ คืออะไรกันแน่นะ ?

หยุดหายใจขณะหลับ คืออะไรกันแน่นะ? ภาวะหยุดหายใจในขณะนอนหลับ มันคืออะไรกันแน่นะ เรามาทำความรู้จักกับภาวะนี้กันเลยนะคะ… ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) เป็นความผิดปกติของการนอนหลับ ซึ่งมีการหายใจสั้น ๆ และถูกขัดจังหวะซ้ำ ๆ ระหว่างการนอนหลับ ในภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หมายถึง หยุดหายใจที่มีระยะเวลาอย่างน้อยสิบวินาที หยุดหายใจขณะหลับสามารถเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อด้านหลังของคอไม่สามารถเปิดทางเดินลมหายใจได้แม้จะพยายามหายใจก็ตาม ภาวะหยุดหายใจขณะหลับอาจทำให้เกิดระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ สำหรับผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ อาจจะนำไปสู่ปัญหาความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ อารมณ์ และความทรงจำ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะมีผลอันตรายถึงเสียชีวิตได้อีกด้วยค่ะ หากคุณสงสัยว่าคุณอาจหยุดหายใจขณะหลับหรือไม่.. สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ไปพบแพทย์เพื่อบันทึกผลการนอนหลับ ระดับความเหนื่อยล้าของคุณมาตลอดทั้งวันและอาการอื่น ๆ ที่คุณอาจจะมี และสอบถามคู่นอนของคุณว่าเขาหรือเธอสังเกตเห็นว่าคุณกรนหนักหายใจไม่ออกหรือหยุดหายใจขณะนอนหลับไหม และบันทึกผลในแต่ละวันหลังจากประมวลผลแล้ว แพทย์จะประเมินและส่งต่อเพื่อไปทำการรักษาที่ศูนย์การนอนหลับ หากคุณมีอาการยังไม่รุนแรงมากนัก การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตถือว่าเป็นอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการของหยุดหายใจขณะหลับ เป็นอีกเคล็ดลับนึงที่เรามาฝากกันค่ะ อาจจะช่วยลดความรุนแรงของภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้สบายเลยค่ะ การลดน้ำหนัก หากคุณมีน้ำหนักเกินนี่คือการกระทำที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือเต้นเอโรบิค ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง 3-4 วัน / สัปดาห์ แค่นี้ก็สามารถที่จะลดน้ำหนักได้อย่างง่ายดายเลยค่ะ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ตื่นตอนกลางคืนบ่อยครั้งและทำให้กล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนบนคลาย … Read more

ผลข้างเคียงและวิธีเลิกยานอนหลับ

ผลข้างเคียงและวิธีเลิกยานอนหลับ

ผลข้างเคียงและวิธีเลิกยานอนหลับ อันตรายที่ต้องพึงระวัง!! เมื่อใช้ยานอนหลับ ยาคลายเครียด พร้อมวิธีเลิกยานอนหลับ ทุกคนคงทราบกันดีว่า “ยานอนหลับ” นั้นย่อมมีผลเสียมากกว่าผลดีเสมอ แม้ว่าฤทธิ์ของยาจะทำให้เราสามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้นก็จริงก็ตาม แต่ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นนั้นอาจเป็นภัยร้ายต่อร่างกายในระยะยาวโดยที่เราคาดไม่ถึง การกินยานอนหลับ ติดต่อกันเป็นเวลานานจะส่งผลเสียร้ายแรง คือ ทำให้เราไม่สามารถนอนหลับเองได้ หรือเรียกว่าเป็นอาการดื้อยานั่นเองค่ะ ซึ่งเราจะใช้ยาช่วยทุกวันเพื่อทำให้เรานอนหลับ ในบางคนอาจจะใช้จนอยู่ๆวันนึงก็นอนไม่หลับทั้งๆที่กินยาก็มีค่ะ ผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายนั้นอาจทำให้เป็น โรคอัลไซเมอร์ ได้ในอนาคตอีกด้วย เพราะฉะนั้นเราจึงอยากเตือนผู้ที่ทาน ยานอนหลับ เป็นประจำ อย่าทานจนติดเป็นนิสัยว่าจะต้องใช้ยานอนหลับเท่านั้นถึงจะหลับได้ ในบางครั้งอาจจะมีวิธีอื่นๆ ที่ช่วยให้เรานอนหลับได้ง่ายและไม่เป็นผลเสียในระยะยาวอีกด้วย เช่น เปลี่ยนจากการทานยานอนหลับมาเป็นทานอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง อีกทั้งยังสามารถที่จะบำรุงร่างกายให้แข็งแรงในด้านอื่นๆอีกด้วย เคล็ดลับแก้โรคนอนไม่หลับด้วยอาหารเสริม G-Arvee เพื่อการนอนหลับที่ง่ายขึ้นหรือผู้ที่อยากเลิกทานยานอนหลับ ลองเลือกสักวิธีที่คิดว่าเราสามารถทำได้และช่วยให้เรานอนหลับง่ายขึ้นกันนะคะ หรือเราควรฝึกให้เข้านอนและตื่นนอนในเวลาเดียวกันเป็นประจำอย่างน้อยสัก 1-2 เดือนขึ้นไป เพื่อปรับกลไกระบบฮอร์โมนต่างๆในร่างกายให้รู้ว่าเวลานอนหลับ และเวลาตื่นที่แน่นอน ซึ่งเมื่อถึงเวลาดังกล่าว เราก็จะง่วงนอนเองและสามารถหลับได้เองโดยอัตโนมัติ และตื่นนอนได้อย่างสดชื่นทุกวันค่ะ บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

วัยทองในเพศหญิงกับการนอนหลับ

วัยทองในเพศหญิงกับการนอนหลับ

วัยทองในเพศหญิงกับการนอนหลับ ผู้หญิงที่เข้าสู่ “วัยทอง” ทำไมถึงนอนไม่หลับ? ในปัจจุบันมีบุคคลในเพศหญิงที่พบกับปัญหาการนอนไม่หลับเพิ่มสูงขึ้น แต่ใครจะรู้ว่าแค่เราอายุมากขึ้นปัญหาการนอนไม่หลับก็สามารถเข้ามาโดยที่เราไม่รู้ตัว…. “ วัยทองในเพศหญิง ” หรือ “ ภาวะหมดประจำเดือนในเพศหญิง ” วัยทองในเพศหญิง หรือ ภาวะหมดประจำเดือนในเพศหญิง คือ ภาวะที่ฮอร์โมนเสียสมดุล เกิดจากการที่ รังไข่หยุดทำงาน และไม่มีการตกไข่อีกต่อไป ทำให้ ไม่มีประจำเดือน และ ไม่มีการสร้างฮอร์โมนเพศหญิงจากรังไข่อีก ซึ่งฮอร์โมนเพศหญิงที่ขาดหายไปคือเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน โดย ผู้หญิงจะเข้าสู่วัยทองเมื่ออายุประมาณ 50 ปี แต่ก่อนหน้าอายุ 50 ปีนั้นรังไข่จะทำงานน้อยลงทำให้ระดับฮอร์โมนเพศหญิงในร่างกายจะไม่สมดุล โดยส่งผลกระทบกับฮอร์โมนที่ควบคุมการแก่ชราไปด้วย ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามมา วัยทองในเพศหญิงกับการนอนหลับ ในเพศหญิงอายุ 50 ปีขึ้นไปบางคนต้องทรมาณกับภาวะการนอนไม่หลับเป็นเวลาหลายปี ทั้งๆที่ไม่มีภาวะเครียดหรือความทุกข์ใจ บางคนเริ่มหลับไม่ได้เลย ระยะในการหลับสั้นลง ตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วหลับต่อไม่ได้ หรือบางคนเรียกได้ว่าเกิดภาวะการนอนไม่หลับระดับรุนแรง นอนไม่หลับจนถึงเช้าจนบางครั้งต้องพึ่งยานอนหลับ แม้ว่าจะงดอาหารหรือเครื่องดื่มที่อาจมีผลต่อการนอนหลับก็ไม่ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นนั่นเป็นเพราะว่าเมื่อเราอายุมากขึ้นระดับฮอร์โมนชนิดต่างๆ ได้แก่ ฮอร์โมนเพศ ฮอร์โมนต่อมหมวกไต โดยเฉพาะฮอร์โมนเมลาโทนินจะมีการหลั่งลดลง ส่งผลต่อการควบคุมนาฬิกาชีวิตของสมอง นอกจากนี้ฮอร์โมนเพศที่ร่างกายเคยได้รับมาตลอด พอถึงช่วงอายุที่ไม่มีการสร้างฮอร์โมนเพศจากรังไข่อีกนั้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างในร่างกายแล้วไปรบกวนการนอน … Read more

จริงดี๊!! ยิ่งแก่ตัวยิ่งนอนน้อย?

จริงดี๊ ยิ่งแแก่ตัวยิ่งนอนน้อย

จริงดี๊!! ยิ่งแก่ตัวยิ่งนอนน้อย? นักพูดท่านหนึ่งเคยกล่าวว่า “ชีวิตเราเวียนมาบรรจบครบรอบเอาตอนเเก่ ยิ่งเเก่เท่าไหร่ก็ยิ่งใกล้เป็นทารกเข้าทุกที” พฤติกรรม ขี้หงุดหงิด รำคาญ บ่นตลอดเวลา กินอาหารอ่อนๆ เพราะฟันไม่เหลือสักซี่ ต้องใช้ผ้าอ้อม หมุนเวียนกลับมาเหมือนวงจรชีวิต             หากกล่าวถึงเรื่องการนอน เด็กทารกจะงีบหลับบ่อยตอนกลางวัน แต่กลางคืนนอนเเค่ 5 ชั่วโมง คนเเก่ก็เหมือนกันที่มักจะเข้านอนเเต่หัวค่ำ ตื่นเเต่เช้ามืด งานวิจัยบอกว่า โดยทั่วไปพออายุ 70 ปี เราจะนอนน้อยกว่าตอนอายุ 30 ปีประมาณ 2 ชั่วโมงต่อคืน             สาเหตุจากพฤติกรรมการนอนของคนแก่บางคนที่อาจตื่นง่ายมากหากมีเสียงดังเพียงนิดเดียว หรือเเค่คนนอนข้างๆพลิกตัว และอาจยิ่งตื่นง่ายขึ้นไปอีกถ้าหากมีโรคประจำตัว, ความเจ็บปวด, ผลข้างเคียงของยา, การปัสสาวะบ่อย หรือมีสิ่งรบกวนต่างๆทางกายภาพรอบตัว เเละเมื่อคนเเก่นอนไม่หลับในเวลากลางคืนท่านก็จะมานอนชดเชยเอาตอนกลางวันเเทน เเละส่งผลให้กลางคืนนอนไม่หลับตามมา นั่นหมายความว่า การนอนหลับเเต่ละคืนของคนเเก่ทั่วไปจะหดสั้นลง เพราะเต็มไปด้วยปัจจัย รบกวนสารพัดอย่าง ผลก็คือเขาเเละเธอนอนน้อยลงๆ กว่าวันหนุ่มสาวเเน่นอน            ดูเหมือนว่าความต้องการการนอนหลับตามธรรมชาติ ของคนเราจะลดน้อยลงตามวัย หรือนอนน้อยลงเมื่อแก่ ต่อให้เราเกษียณอายุเเละมีเวลาเหลือเฟือก็ตาม เพราะเมื่ออายุมากขึ้นๆการนอนให้ได้ 7 ชั่วโมงต่อคืน กลายเป็นความยากลำบากสำหรับการนอน ดังนั้นหลับให้สำราญขณะยังหนุ่มสาว เพราะเมื่ออายุยิ่งมากขึ้น การนอนให้เต็มอิ่มมันจะยิ่งยากลำบากแสนเข็ญ … Read more

ยาแผนโบราณที่ช่วยให้นอนหลับ

ยาแผนโบราณที่ช่วยให้นอนหลับ

ยาแผนโบราณที่ช่วยให้นอนหลับ มารู้จักกับยาแผนโบราณ ที่ช่วยให้นอนหลับจากสมุนไพรไทย ในประเทศไทยมีผู้ที่ประสบกับปัญหา “นอนไม่หลับ” เพิ่มมากขึ้น โดยส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากภาวะความเครียด วิตกกังวล จากการทำงาน ปัญหาทางการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ ในบางท่านปล่อยไว้ทำให้เกิดปัญหาเรื้อรัง ร่างกายขาดประสิทธิภาพการทำงาน และทำใหเกิดโรคและอาการต่างๆตามมาไม่น้อย หนึ่งในนั้นก็คือ โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆที่ช่วยให้หลับสบาย ด้วยสมุนไพรไทย เพื่อสนับสนุนให้คนไทยได้หันมาใช้สมุนไพรในการบำบัดสุขภาพค่ะ ทางการแพทย์แผนไทยระบุสาเหตุของการนอนไม่หลับว่า เกิดจากธาตุไฟในร่างกายมีมากเกินไป   ทำให้ร่างกายเกิดความร้อน ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ส่งผลทำให้นอนไม่หลับ การที่เราจะลดธาตุไฟในร่างกายนั้น   แนะนำให้ใช้สมุนไพรที่มีรสขม เย็น จืด เพื่อดับธาตุไฟในร่างกายให้ทุเลาลง กลุ่มพืชสมุนไพรเดี่ยวที่ใช้รักษาอาการนอนไม่หลับ ขี้เหล็ก รสขม ใช้ใบแก้นอนไม่หลับ หรือนำมาปรุงอาหารได้ เช่น แกงขี้เหล็ก ในใบขี้เหล้กจะมีฤทธิ์ในการกดประสาทส่วนกลาง สมองและไขสันหลัง ชุมเห็ดไทย รสขมเมา ใช้เมล็ดรักษาอาการนอนไม่หลับ บำรุงธาตุ โดยการคั่วเหมือนคั่วกาแฟ ชงดื่มก่อนนอน ในเมล็ดจะมีสารAnthreguinene ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง รากระย่อม รสขม ใช้รากแก้นอนไม่หลับ เป็นยากล่อมประสาทและบำรุงประสาท บดผงปั้นเป็นเม็ด อบหรือคั่ว ชงดื่มหรือต้มกิน ดอกกัญชา … Read more

เลือกเครื่องนอนยังไง ? ให้นอนหลับสบาย

เลือกชุดเครื่องนอนยังไง ให้นอนหลับสบาย

เลือกเครื่องนอนยังไง ? ให้นอนหลับสบาย คุณเคยเจอปัญหาแบบนี้ไหมคะ ? นอนไม่หลับเพราะรู้สึกไม่สบายตัว ตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะเหงื่อแตก ปวดคอหลังจากตื่นนอน ปัญหาเหล่านี้เกิดจากเครื่องนอนที่เราใช้ ซึ่งสาเหตุเหล่านี้อาจมาจาก สีของผ้าปูที่นอนที่มองแล้วไม่สบายตา  ทำให้เวลาเข้านอนจิตใจไม่สงบผ่อนคลาย อาจทำให้นอนหลับไม่สนิทได้ หมอนที่ไม่สามารถรองรับกระดูกคอให้สมดุลกับศีรษะหรือนิ่มเกินไป ทำให้เวลานอนคอจะตกหมอน กระดูกคอคต ทำให้เราปวดคอหลังตื่นนอนได้ ผ้าห่มที่หนามากเกินไปไม่ระบายอากาศ ทำให้เวลานอนแทนที่จะอุ่นกลับทำให้รู้สึกร้อนอึดอัดไม่สบายตัวได้ ในการเลือกเครื่องนอนของเรานั้นมีส่วนสำคัญต่อชีวิตของเราเป็นอย่างมากค่ะ  เพราะมันจะส่งผลทั้งคุณภาพในการนอนหลับของคุณและสุขภาพโดยรวมด้วย ดังนั้นเราขอเเนะนำด้วย 3 เทคนิคง่ายๆในการเลือกเครื่องนอนยังไงให้หลับสบายมาฝากคุณค่ะ เลือกสีผ้าปูที่มองแล้วสบายตาสบายใจ เช่นสีโทนเย็นอย่างสีฟ้าน้ำทะเล  หรือโทนชมพูหวานลายกุหลาบก็ได้เช่นกันค่ะ สีมีส่วนอย่างมากทำให้จิตใจปลอดโปร่งหลับสบาย หมอนที่สามารถรองรับกระดูกคอให้ขนานกับศีรษะของเราได้ อย่างหมอนยางพารา หรือหมอนที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่นหมอนที่ทำจากเปลือกถั่วเขียว  เพราะหมอนที่รอบรับกับน้ำหนักและสรีระร่างกายของเราให้สมดุลจะช่วยให้นอนหลับลึกได้มากขึ้นค่ะ ผ้าห่มที่ทอจากใยฝ้ายแท้หรือผ้าไหมเเพรจะเหมาะห่มในช่วงหน้าร้อน เพราะระบายอากาศได้ดี  ส่วนในช่วงหน้าหนาวหรือหน้าฝน ผ้าห่มที่ทำจากขนเป็ดหรือจากนุ่นจะให้ความอบอุ่นได้ดีมากค่ะ

จริงหรือเปล่า ? หาวเป็นโรคติดต่อ

จริงหรือไม่ หาวเป็นโรคติดต่อ

จริงหรือเปล่า ? หาวเป็นโรคติดต่อ ทำไมเวลาเห็นคนอื่นหาวเราต้องหาวตามด้วย เราก็ไม่ได้ง่วงสักหน่อยนะ ? สาเหตุของการหาวตามกัน อาจจะเป็นพฤติกรรมทางสังคมของทั้งคนและสัตว์ เป็นเรื่องของการแสดงความเห็นอกเห็นใจ การหาวเป็นพฤติกรรมที่ไม่ได้จำกัดอยู่เเค่สัตว์ประเสริฐอย่างมนุษย์ เเต่พบเห็นได้ในอาณาจักรสัตว์อีกหลายชนิด เช่น ลิง สุนัข แมว หนู เสือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เเม้เเต่ ทารกในครรภ์ก็เริ่มหาวกันตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ไม่มีใครสามารถบอกเเน่ชัดว่าทำไมใครก็ตาม ผู้หญิง ผู้ชาย หรือสัตว์ จึงหาว การหาวเกิดขึ้นได้ในหลายเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเวลาง่วงหรือเพิ่งตื่น  เมื่อรู้สึกเบื่อ เหนื่อย เครียด หรือเห็นคนหาว เเละหาวตามกัน เหตุผลทางด้านวิทยาศาสตร์ ระบุว่าเวลาที่เราขาดออกซิเจนในเลือดหรือมีคาร์บอนไดออกไซด์สะสมในระบบของร่างกาย การหายใจเข้าลึกๆ แล้วอ้าปากตามลักษณะของการหาวเป็นการเเก้ไขปัญหาดังกล่าว เเต่ในทางกลับกัน งานศึกษากลับพบว่าการหายใจเอาคาร์บอนไดออกไซด์หรือออกซิเจนปริมาณสูงเข้าสู่ร่างกายไม่ทำให้เกิดการหาว แล้วทำไมต้องหาว? ข้อสมมุติฐานที่อาจเป็นไปได้สำหรับการหาว มีดังนี้ การหาวอาจจะเกิดขึ้นเพื่อการยืดเส้นยืดสายของกล้ามเนื้อที่ลิ้นและลำคอ เเละทำให้มีการไหลเวียนของน้ำเหลืองดีขึ้น มีบางการศึกษาพบว่า หลังจากการหาวจะช่วยให้คนที่กระสับกระส่ายตื่นตัวขึ้น การหาว เกิดขึ้นเพื่อควบคุมอุณหภูมิของสมอง ทำให้อุณหภูมิของสมองเย็นขึ้น การหาวอาจเกิดมาจากการควบคุมของสารในสมองกลุ่มสารสื่อประสาท และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้อง              สรุปแล้ว การหาวไม่ได้เป็นปฏิกิริยาที่ร่างกายแสดงออกเพื่อเตรียมพร้อมจะนอนหลับหรือต้องการพักผ่อน แต่เป็นปฏิกิริยาที่แสดงออกว่าร่างกายพร้อมที่จะตื่นตัว ไม่มีผลเสียต่อสุขภาพ … Read more